22/09/58
ความรู้จากในห้องเรียนได้เรียนรู้เรื่อง If clauses ซึ่งหมายถึงประโยคเงื่อนไขประกอบด้วยอนุประโยค
2
ประโยคประโยค 1
ขึ้นต้นด้วย If กับอีกประโยค
1
มีหน้าตาเหมือนประโยคสมบูรณ์ว่าไปอนุประโยคนี้สามารถสลับที่กันได้ประโยคประโยคไหนขึ้นก่อนก็ได้
แล้วเน้นแต่นความหมาย If
clauses แบ่งได้ออกเป็น 3 ชนิดคือใช้ Type one, Type two, Type three มีการใช้ดังนี้
1.Type one เป็นการสมมุติเกิดเหตุการณ์ในปัจจุบันโฆษณาที่เป็นไปได้
คือ If + Present simple,will +
V.1
วิธีใช้
คือใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นเหตุเป็นผลกันซึ่งกันและกัน เช่น
·
If
I have enough money I will go to Japan.
·
I
won’t go outside if the weather is cold.
·
If
I have time, I will help you.
·
If
you eat too much, you will get fat.
·
I
can’t drink alcohol if I have to drive.
2.Type two เป็นการสมมติในปัจจุบันที่บอกความสงสัย
แสดงเงื่อนไขที่ไม่น่าเป็นไปได้
คือ If + Past simple,would + V.1
วิธีใช้
คือใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามความจริงในปัจจุบันหรืออนาคต เช่น
·
If
I knew her name, T would tell you.
·
She
would be safar if had car.
·
If
I were you, I would not say that.
·
If
would be nice if you helped me do the housework.
3.Type three
เป็นการสมมติในอดีต
แสดงเงื่อนไขที่ไม่อาจเป็นไปได้เลย และตรงข้ามกับความเป็นจริงในอดีต
คือ If + Past perfect,would have + V.3
วิธีใช้
คือใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามกับความจริงในอดีต เช่น
·
If
you had asked, I would have told you.
·
If
would have been in big trouble if you had not helped me.
·
If
I had met you before, we would have been together.
·
If
I had studied, I would have passed the exam.
หลักการใช้ If Clauses ทั้ง
3 ชนิดก้อย่างที่กล่าวมาข้างต้น
เมื่อใดที่เราจำเป็นต้องใช้ if
clauses ขึ้นมาอย่างฉับพลันและลืมว่าประโยคเหตุ (if)
และประโยคผล ใช้กับ tense
อะไร ก็สามารถนึกถึงประโยคพื้นฐานทั้ง 3 ประโยคนี้
-Do you mind if I smoke?
-If I were you, I would call her.
-I would have watched that movie.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น