วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning log in class 5

22/09/58

ความรู้จากในห้องเรียนได้เรียนรู้เรื่อง If clauses ซึ่งหมายถึงประโยคเงื่อนไขประกอบด้วยอนุประโยค 2 ประโยคประโยค 1 ขึ้นต้นด้วย If กับอีกประโยค 1 มีหน้าตาเหมือนประโยคสมบูรณ์ว่าไปอนุประโยคนี้สามารถสลับที่กันได้ประโยคประโยคไหนขึ้นก่อนก็ได้ แล้วเน้นแต่นความหมาย If clauses แบ่งได้ออกเป็น 3 ชนิดคือใช้ Type one, Type two, Type three มีการใช้ดังนี้

1.Type one เป็นการสมมุติเกิดเหตุการณ์ในปัจจุบันโฆษณาที่เป็นไปได้
คือ If + Present  simple,will + V.1
วิธีใช้ คือใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นเหตุเป็นผลกันซึ่งกันและกัน เช่น
·         If I have enough money I will go to Japan.
·         I won’t go outside if the weather is cold.
·         If I have time, I will help you.
·         If you eat too much, you will get fat.
·         I can’t drink alcohol if I have to drive.
2.Type two เป็นการสมมติในปัจจุบันที่บอกความสงสัย แสดงเงื่อนไขที่ไม่น่าเป็นไปได้
คือ If + Past simple,would + V.1
วิธีใช้ คือใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามความจริงในปัจจุบันหรืออนาคต เช่น
·         If I knew her name, T would tell you.
·         She would be safar if had car.
·         If I were you, I would not say that.
·         If would be nice if you helped me do the housework.
3.Type three เป็นการสมมติในอดีต แสดงเงื่อนไขที่ไม่อาจเป็นไปได้เลย และตรงข้ามกับความเป็นจริงในอดีต
คือ If + Past perfect,would have + V.3
วิธีใช้ คือใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามกับความจริงในอดีต เช่น
·         If you had asked, I would have told you.
·         If would have been in big trouble if you had not helped me.
·         If I had met you before, we would have been together.
·         If I had studied, I would have passed the exam.
หลักการใช้ If Clauses ทั้ง 3 ชนิดก้อย่างที่กล่าวมาข้างต้น เมื่อใดที่เราจำเป็นต้องใช้ if clauses ขึ้นมาอย่างฉับพลันและลืมว่าประโยคเหตุ (if) และประโยคผล ใช้กับ tense อะไร ก็สามารถนึกถึงประโยคพื้นฐานทั้ง 3 ประโยคนี้
-Do you mind if I smoke?
-If I were you, I would call her.
-I would have watched that movie.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น